แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ review แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ review แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บอกลาปัญหารถสุดที่รัก ด้วย Drivebot โครงการ Startup ไทยที่ไปไกลระดับโลก

บอกลาปัญหารถสุดที่รัก ด้วย Drivebot โครงการ Startup ไทยที่ไปไกลระดับโลก


ก็กลับมาอีกครับกับการเขียน Blog ที่พยายามจะให้มีสาระ เท่าที่จะมากได้ ที่มาที่ไปของ Blog นี้ก็คือ เมื่อวันหนึ่งนานมาแล้ว อ่านข่าวเว็บ Blognone แล้วไปเห็นข่าวนี้ "Drivebot อุปกรณ์ช่วยดูแลรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน เปิดโครงการระดมทุนกับ Indiegogo แล้ว" ก็เลยตามเข้าไปดูที่โครงการ พบว่า โครงการนี้ได้ผ่านโครงการ Dtac Accelrate #2 มา ซึ่งเราก็เห็นว่า โครงการแต่ละโครงการที่ผ่าน Dtac Accelrate มาได้นี่ไม่ธรรมดา คุณภาพคับแก้วมากๆ จากที่อ่านคุณสมบัติกับภาพในโครงการ ตอนแรกก็ "เอ่อ ดีนะ" แต่พอได้ดูวีดีโอที่เค้าทำมา โอ้พระเจ้า มันใช่เลย ใช่มากๆ กดซื้อทันทีไม่คิดเลย

ในวีดีโอก็ทำมาได้ดีเข้าใจง่ายเลยว่ามันทำอะไรได้บ้าง ช่วยอะไรเราได้บ้าง
หลักๆที่เจ้า Drivebot ทำก็คือ

  • แจ้งเตือนสถานะของรถ
  • Log การเดินทางในรูปแบบระยะทาง/การใช้พลังงาน


มาว่ากันที่ตัว Drivebot ก่อน

Drivebot และ Application บน iOS

ตัว Drivebot จะทำงานด้วยการเชื่อมต่อกับพอร์ท OBD-II แล้วสื่อสารกับ Application บนมือถือเราผ่าน Bluetooth โดยที่ตัว Drivebot มีหน่วยความจำในตัว ทำให้ ไม่จำเป็นต้องทำงานคู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา ง่ายๆก็คือ

  1. เอาเจ้า Drivebot ไปต่อกับรถ
  2. เซ็ทการใช้งานครั้งแรก
  3. เสร็จแล้ว !

เวลาใช้งานก็คือขับรถไป ปล่อยให้ Drivebot ทำงานไป เปิด Bluetooth ที่มือถือทิ้งไว้ แล้วเดี๋ยวมันจะ sync ข้อมูลกันเอง อยากดูข้อมูลก็เปิด Application ขึ้นมาดู ง่ายดีนะ ไม่ต้องอะไรกับมันมาก


Drivebot Application on iOS

ในส่วนนี้ขอเขียนเท่าที่ใช้ก่อนนะครับ เพราะยังใช้ความสามารถไม่ครบเลย

หน้าจอหลัก
ครั้งแรกที่ใช้งานก็งงๆ หน่อย ว่าเราจะดูข้อมูลรถเรายังไงหว่า มีแบบ Realtime ให้ดูมั้ย กดๆอยู่ซักพัก ก็ไม่มีอะไรขึ้นมา ก็เลยตีความว่า คงต้องรอให้ตัว Drivebot เก็บข้อมูลซักหน่อยถึงจะแสดงอะไรออกมาได้ อ่ะจัดให้ ก็ปล่อยให้มันเก็บข้อมูลไปซัก 1 สัปดาห์ ก็ลองมาเป็น Application ดู โอ้ยข้อมูลขึ้นมาแล้ววววววววววว






จากข้อมูลที่ได้มา ก็คิดว่ามันมีประโยชน์มากๆนะ หลายๆอย่างเป็นข้อมูลที่สำคัญ อย่างเช่น ความต่างศักย์ของแบต (คือถ้าต่ำไปสตาร์ทรถไม่ติดแน่ๆ) ก็โอเคเลย

นอกจากนี้มันยังเก็บ Log การขับรถของเราไว้ให้ด้วยนะ หน้าตาแบบนี้

ซึ่งข้อมูล Log เนี่ย สามารถ Export ออกมาได้ด้วย เผื่อว่าจะเอาไปทำสถิติหรืออะไรก็ว่าไป



Drivebot แหล่มมั้ย

ก็ถือว่าชอบเลยนะ ถ้ามันเตือนเราก่อนที่ปัญหามันจะใหญ่โต เพราะเราก็คงไม่ได้ไป Monitor มันแบบ Realtime ขนาดนั้น ก็ถือว่า Drivebot นี่ตอบโจทย์ได้ดีเลย

แต่ก็ยังมีหลาย Feature ที่เรารู้สึกว่าถ้ามีเนี่ยจะแจ่มมาก อย่างเช่นถ้าสามารถ ดู Log ต่างๆบนเว็บได้ก็น่าจะดี



ข้อมูลเพิ่มเติม
http://drivebot.io/
http://blog.drivebot.io/post/109187824422/the-drivebot-device-sample-from-our-manufacturer?utm_content=bufferf40a7&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer
https://www.facebook.com/drivebotio
https://www.indiegogo.com/projects/drivebot-a-fitbit-for-your-car#/story
https://www.blognone.com/node/61881

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

[review] มีอุปกรณ์เยอะ มันก็ต้องพกที่ชาร์ทไปเยอะ แต่แก้ได้ด้วย Coop Jelly Charger Station

Coop Jelly Charger Station


ในยุคนี้ หลายๆคนที่มีอุปกรณ์พวกมือถือ มากกว่า 1 เครื่อง คงจะมีปัญหากับการชาร์ทไฟ ที่ต้องใช้ที่ชาร์ท 1 อันกับอุปกรณ์ 1 ชิ้น แล้วปัญาหามันอยู่ที่ระยะเวลาการใช้งานมันก็ดันพอๆกัน ทำให้ตรงชาร์ทพร้อมๆกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกผู้ผลิตทั้งหลายไม่ยอมให้ที่ชาร์ทที่สามารถชาร์ทอุปกรณ์ได้มากกว่า 1 ตัวพร้อมๆกันมาซะที แต่จะว่าไปบางรุ่นบางยี่ห้อไม่ให้ที่ชาร์ทมาด้วยซ้ำนะ

ทีนี้มันก็เลยมีช่องว่างให้ผู้ผลิตรายอื่นผลิตที่ชาร์ทที่สามารถชาร์ทอุปกรณ์ได้พร้อมๆกันมากกว่า 1 อุปกรณ์ออกมาขาย แต่มันก็ดันมีปัญหาตามมาอีกอย่างเช่น

  • กรณีที่ 1 ที่ชาร์ท A สามารถปล่อยไฟได้ 1A ออกทาง USB 2 ช่อง แต่กรากฎว่า เวลาใช้ไฟจาก USB พร้อมกันทั้ง 2 ช่อง กระแสไฟดันตกไปอยู่ที่ช่องละ 0.5A หรืออาจจะต่ำกว่าด้วยซ้ำ
  • กรณีที่ 2 ที่ชาร์ท B สามารถปล่อยไฟได้ 1A ออกทาง USB 2 ช่อง และ สามารถปล่อยไฟได้ 2A ออกทาง USB 1 ช่อง แต่พอชาร์ทจริง ใช้ USB 1A แค่ 1 ช่อง ดันได้ไฟออกมา 3A ????????

อันนี้เนื่องจากผู้เขียนก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านไฟฟ้ามากมายนัก แต่ก็ขอเดาว่า เค้าออกแบบวงจรมาให้มันแชร์กัน ไม่ได้แยกกัน อ้าวแล้วแบบนี้จะมีที่ชาร์ทตัวไหนที่สามารถแยกจ่ายไฟได้จริงๆมั้ย ก็ขอตอบว่ามี ผู้เขียนก็หามานานแล้วที่ราคามันสมเหตุสมผลคุณภาพดี การใช้งานจริง ok (เรื่องเยอะนะ) ก็เลยเป็นที่มาของการรีวิว เจ้า Coop Jelly Charger Station ตัวนี้

มาเริ่มกันเลยละกัน



เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Coop Jelly Charger Station
เว็บผู้ผลิตคือ http://www.thecoopidea.com/#!jelly/c1oer
มีอยู่ด้วยกัน 5 สี คือ สีเทา สีฟ้า สีเขียว สีชมภู และสีเหลือง


เรามาดูสีเทากันเลยดีกว่า











ตัวกล่องที่ทำมาไอเดียดีอ่ะ ชอบ

ทำไมถึงต้องใช้ แบบนี้นี่เอง


เปิดกล่องออกมาก็มีตัวของ คู่มือ แล้วก็อากาศจากจีน


เมือแกะที่ชาร์ทออกมาจากปลอกซิลิโคน










ข้างในปลอกซิลิโคน


เวลาใช้ก็ลอดสายออกมาข้างล่างได้เลย เวลาไม่ใช้ก็ยัดสายเก็บเข้าไป สะดวกดีนะ


ทีนี้ก็เข้าเรื่องสำคัญเลยคือ จ่ายไฟแยกตามช่องได้มั้ย ในคู่มือบอกว่าได้(ลืมถ่ายรูปมา)
การจ่ายไฟของทั้ง 4 ช่องคือ

  • Tablet(iPad) 2.1A
  • Phone(iPhone/iPod) 1A
  • Phone(iPhone/iPod) 1A
  • Phone(iPhone/iPod) 1A

ส่วนเรื่องราคา ก็เห็นขายกันราวๆ 69$ usd นะ ตีเป็นเงินไทย ก็คง 2000 ได้ แต่ช่วงนี้(๒๑ เมษายน ๒๕๕๗) มันช่วงนาทีทอง ที่เว็บ lazada (ที่ในพันทิพย์เค้าบ่นๆกันว่ามีปัญหาเยอะไม่ดีนั่นแหละ แต่คนเขียนซื้อมาหลายอย่างก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร) ขายอยู่ 650 บาทไทย!

ก็จบเพียงเท่านี้ละกันนะ ครั้งหน้าเจอกันกับ review mac book pro